ACEโรงไฟฟ้าเดินหน้า ปี67ผลิตรวม1,100MW

ACEคาดหวังได้โรงไฟฟ้าชุมชน(ก๊าซชีวภาพ, ชีวมวล) ประมาณ 350-400 MW, โรงไฟฟ้าขยะชุมชน ประมาณ 100-150 MW คงเป้าหมายปั๊มกำลังผลิตรวม 1,100 เมกะวัตต์ ภายในปี 2567

นางสาวจิรฐา ทรงเมตตา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด(มหาชน) หรือ ACEผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ในปี2563บริษัทมีแผนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมยื่นข้อเสนอโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนขนาดใหญ่ของภาครัฐ 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน (ก๊าซชีวภาพ, ชีวมวล) ที่ภาครัฐประกาศ 700 เมกะวัตต์(MW) โดยคาดหวังว่าจะได้ประมาณ 350-400 MW และโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน จำนวน 400 MWบริษัทคาดหวังว่าจะได้ประมาณ 100-150 MW

ทั้งนี้บริษัทมีความพร้อมทั้งด้านประสบการณ์การพัฒนาและบริหารโรงไฟฟ้ากว่า 212 MWความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยพัฒนา(R&D) เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้า ด้วยวัสดุการเกษตร พืชพลังงานและขยะอินทรีย์ ขยะชุมชน รวมถึงความพร้อมทางด้านการเงิน

บริษัทมองหาโอกาสขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ โดยที่ผ่านมามีการเจรจาหลายดีล ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าขยะในกลุ่มประเทศ CLMV คาดว่าภายในปีนี้ได้ข้อสรุปอย่างน้อย 1 ดีล สำหรับโครงการโรงไฟฟ้า SPP Hybrid จำนวน 4 แห่ง กำลังการผลิตติดตั้ง 93 MW ซึ่งอยู่ระหว่างการขอขยายระยะเวลาลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) คาดรับการอนุมัติภายในไตรมาส 1/2563 นี้

ด้านนายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือACE กล่าวว่า บริษัทมีกระแสเงินสดเข้ามาปีละประมาณ 1 พันล้านบาท รวมถึงบริษัทยังสามารถออกหุ้นกู้เพื่อระดมทุนได้อีก หากมีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนขยายธุรกิจ ขณะนี้อยู่ระหว่างให้ทริสเรตติ้ง จัดทำเรตติ้งหุ้นกู้ดังกล่าว

โดยบริษัทมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง เพราะที่ผ่านมาประสบความสำเร็จในการลดค่าใช้จ่ายทางการเงินกว่า 200 ล้านบาทต่อปี โดยการชำระคืนหุ้นกู้ก่อนกำหนดจำนวน 1,450 ล้านบาท นอกจากนี้ยังสามารถลดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวในอัตรากว่า 1.5% กับสถาบันการเงินชั้นนำ โดยอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนอยู่ในระดับต่ำ ประมาณ 0.5 เท่า ทำให้มีศักยภาพในการลงทุนขยายกิจการได้อีกมาก

เป้าผลิตรวม 1,100MW

บริษัทยังคงเป้าหมายที่จะมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมที่ 1,000 MW ภายในปี 2567 หรืออาจจะเร็วกว่าแผนที่กำหนดก็ได้ จากการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์(COD) แล้ว จำนวน 212.18 MW และคาดว่าภายในปีนี้จะ COD เพิ่มขึ้นอีก 17 MWโดยบริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตติดตั้งรวมเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1 เท่าตัว จะมาจากโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และโครงการที่อยู่ระหว่างรอการพัฒนาและโครงการในอนาคต ซึ่งรวมถึงโรงไฟฟ้าชุมชน และโรงไฟฟ้าขยะดังกล่าว

ส่วนกรณีที่ราคาหุ้น ACEปรับตัวลงแรงเมื่อวันศุกร์ที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมาและครอบครัวทรงเมตตาเข้าไปซื้อเพิ่ม 43 ล้านหุ้น นายธนะชัย กล่าวว่า กรณีที่พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ถูกสั่งให้ย้ายไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรีไม่ได้มีผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัท เพราะพล.ต.อ.วิระชัยไม่ได้เป็นผู้บริหารของบริษัท

ซึ่งราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมากต่ำกว่าพื้นฐาน จึงทำให้ครอบครัวทรงเมตตา เข้าไปซื้อหุ้นดังกล่าว คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 0.4% โดยก่อนหน้านี้ครอบครัวทรงเมตตา ถือหุ้น ACE ประมาณ 80% อย่างไรก็ตาม การซื้อหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่ ก็จะต้องพิจารณาในด้านของฟรีโฟลทด้วย ซึ่งปัจจุบันมีฟรีโฟลทอยู่ประมาณ 20%ซึ่งตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์หุ้นที่จดทะเบียนในตลาดจะต้องมีฟรีโฟลทไม่ต่ำกว่า 15%

จากแบบรายงาน 59-2 ที่แจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพยืและตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) นายพรเมตต์ ทรงเมตตา และนายธีรวุฒิ ทรงเมตตา ซื้อหุ้น ACE รวมกัน 43 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.04 บาท คิดเป็นเงิน 130.72 ล้านบาท

โบรก แนะนำซื้อ

บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด แนะนำซื้อหุ้น ACE ให้ราคาเป้าหมายที่ 5.24 บาทต่อหุ้น มองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงไม่ได้เกิดจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยปัจจุบันราคาหุ้นมีการซื้อขายพี/อี เรโช 9.1 เท่าสำหรับปี 2565 หรือเมื่อโครงการทั้งหมดเปิดดำเนินการอย่างเต็มที่ upsideจากนี้ได้แก่โครงการใหม่ๆ ซึ่งจุดแข็งของบริษัท คือการวิจัยและพัฒนาภายในบริษัท เพื่อลดต้นทุนวัตถุดิบ การปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : thunhoon