ACE รุกชิงโรงไฟฟ้าชุมชน-โรงไฟฟ้าขยะชุมชนทั่วประเทศ

ACE เผยกำไรสุทธิไตรมาส 1/2564 อยู่ที่ 360.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% จากไตรมาสก่อน โกยรายได้จากโรงไฟฟ้าที่มีอยู่เดิมและรับรู้รายได้เพิ่มเต็มไตรมาส จาก 3 โรงไฟฟ้าชีวมวลใหม่และโรงไฟฟ้าขยะกระบี่ ลุ้นประกาศผลด้านเทคนิคโรงไฟฟ้าชุมชนรอบแรกต้นเดือนกรกฎาคม 2564 หลังร่วมยื่นประมูลหลายโครงการในช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา มั่นใจในประสบการณ์และศักยภาพบรรลุเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งรวมกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2567 สร้างการเติบโตระยะยาว

ธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE

นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานสะอาดของไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2564 ว่ามีรายได้จากการขายและบริการ 1,314.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากงวดเดียวกันปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 1,216.6 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 5.7% จากไตรมาส 4/2563 ซึ่งอยู่ที่ 1,242.7 ล้านบาท

ขณะที่มีกำไรสุทธิ 360.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% จากไตรมาส 4/2563 ที่ทำได้ 254.1 แต่ลดลง 39% จากไตรมาส 1/2563 ที่ทำได้ 593.5 เพราะปีก่อนมีรายได้พิเศษจากการรับเงินค่าสินไหมทดแทนของบริษัทย่อยจำนวน 172 ล้านบาท ส่วนกำไรจากกิจกรรมปกติ (Core Profit) อยู่ที่ 305.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.8 % จากงวดเดียวกันปีก่อน ที่ทำได้ 303.1 ล้านบาท

“ACE มีรายได้แตะ 1,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นตามเป้าหมายเป็นผลจากการรับรู้รายได้ของโรงไฟฟ้าใหม่ๆ เต็มไตรมาส กำลังการผลิตรวม 32.9 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าชีวมวล 3 แห่ง กำลังการผลิต 26.9 เมกะวัตต์ ที่ซื้อมาจากบริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) หรือ UWC และโรงไฟฟ้าขยะกระบี่ 6.0 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ดี ในช่วงไตรมาส 1/2564 ที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าชีวมวลทั้ง 3 แห่งที่บริษัทฯ ซื้อมายังเดินเครื่องได้ไม่เต็มกำลังเนื่องจากยังอยู่ในช่วงที่มีการปรับปรุงเครื่องจักรเพิ่มเติมให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นและลดต้นทุนการผลิตลง รวมทั้งโรงไฟฟ้าชีวมวล 1 ใน 3 แห่งดังกล่าว ยังอยู่ในช่วงการ Test Run ตามขั้นตอนการเปลี่ยนสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเป็นรูปแบบสัญญา FiT ซึ่งคาดว่าตั้งแต่กลางไตรมาส 2 เป็นต้นไป โรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่งนี้จะสามารถเดินเครื่องได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและเต็มกำลังมากยิ่งขึ้น” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ACE กล่าว

นายธนะชัย กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการปี 2564 คาดว่ายังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และบริษัทฯ มีโอกาสที่จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าเพิ่มอีกหนึ่งแห่งได้ทันภายในปีนี้ คือ โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล VSPP คลองขลุง ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ ซึ่งการก่อสร้างมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 60% และยังอยู่ระหว่างเจรจาดีลซื้อกิจการโรงไฟฟ้าอีกหลายดีลเพื่อขยายฐานธุรกิจเพิ่มเติม ซึ่งถ้ามีความคืบหน้าบริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบผ่านช่องทางการแจ้งข่าวของตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป

บริษัทฯ มีความคืบหน้าในการขยายธุรกิจตามแผนที่วางไว้ นับตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา โครงการโรงไฟฟ้าต่างๆ ของบริษัทฯ ทยอยลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) อย่างต่อเนื่อง เริ่มจากโครงการโรงไฟฟ้า SPP Hybrid คลองขลุง กำลังการผลิตติดตั้ง 20 เมกะวัตต์ ตามมาด้วยโครงการโรงไฟฟ้า SPP Hybrid นาบอน 1 และ นาบอน 2 ที่เป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้ง 2 โครงการ มีกำลังการผลิตติดตั้งรวมกัน 50 เมกะวัตต์ ทำให้ปัจจุบันมีโครงการโรงไฟฟ้า SPP Hybrid ที่ลงนามในสัญญา PPA เป็นที่เรียบร้อยแล้วรวม 3 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 70 เมกะวัตต์ คงเหลือ 1 โครงการ คือ โครงการโรงไฟฟ้า SPP Hybrid ระนอง โดยยังอยู่ในขั้นตอนการขอขยายระยะเวลาการลงนาม PPA และขยายกำหนดวัน SCOD กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมองหาโอกาสจากการเข้าลงทุนใหม่ๆ โดยในส่วนการเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนนำร่อง 150 เมกะวัตต์ ที่บริษัทฯ ได้เข้าร่วมยื่นประมูลด้วยหลายโครงการ เพราะมั่นใจในประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ รวมถึงมีสัมพันธ์อันดีกับเครือข่ายเกษตรกรและชุมชนกระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งผลงานที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่า ACE มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลในหลายพื้นที่ ดังนั้นเชื่อว่าข้อเสนอของบริษัทฯ จะเป็นข้อเสนอที่ดี เกิดประโยชน์กับชุมชนสูงสุด ผลักดันเศรษฐกิจฐานรากช่วยการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน โดยคาดว่าจะทราบผลการพิจารณาคุณสมบัติและคำเสนอขายไฟฟ้าด้านเทคนิคครั้งแรก ในวันที่ 2 ก.ค. 2564 นี้ ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ที่ภาครัฐอยู่ระหว่างจัดทำหลักเกณฑ์เปิดรับซื้อไฟฟ้านั้น หากมีประกาศเปิดประมูลเมื่อใด บริษัทฯ ก็พร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลแน่นอน เพราะมีความพร้อมทั้งด้านเงินลงทุน เทคโนโลยีและประสบการณ์ โดยเตรียมเสนอไว้ในหลายพื้นที่

ทั้งนี้ ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ACE ประจำปี 2564 เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2564 ที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากการดำเนินงานปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 0.018 บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 13 พ.ค.2564 เมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่จ่ายไปก่อนหน้านี้เมื่อเดือน มิ.ย. 2563 อีก 0.03 บาท/หุ้น รวมเป็นเงินปันผลทั้งปีอยู่ที่ 0.048 บาท/หุ้น

ปัจจุบัน กลุ่มบริษัท ACE มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว กำลังการผลิตติดตั้งรวม 247.43 เมกะวัตต์ (ข้อมูล ณ 30 เมษายน 2564) และมีกำลังการผลิตติดตั้งที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 202.14 เมกะวัตต์ รวมเป็นกำลังการผลิตติดตั้งทั้งสิ้น 449.57 เมกะวัตต์ และมีเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งให้ได้มากกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2567

ที่มา:  korkao