ส่องปัจจัย ACE แรงได้อีก! ตัวเต็งโรงไฟฟ้าชุมชน กองทุนช้อปหุ้น

HoonSmart.com>>หุ้นบริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE กระโดดขึ้นมาอยู่บนจอเรดาร์ของนักลงทุนทุกระดับ เห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นกว่า 3,000 ล้านบาท มากเป็นอันดับหนึ่งของวันที่ 26 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ผลักดันให้ราคาหุ้นแข็งแกร่งยืนปิดที่จุดสูงสุดของวันระดับ 4.08  บาท พุ่งขึ้น 9.09%  และยังคงแรงต่อเนื่องวันที่ 29 มีนาคม ไล่ราคาขึ้นไปถึง 4.26 บาท ก่อนที่จะปิดเท่ากับวันก่อน ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายกว่า 2,216 ล้านบาท  คาดว่าเกมส์นี้ยังไม่จบลงง่ายๆ เพราะมี 7 ปัจจัยบวกหนุนให้ไปต่อ…

ปี 63 กำไรเติบโต 85% คาดปี 64 กำไรนิวไฮ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5

บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ เป็นผู้นำธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง เห็นได้ความสามารถในการสร้างกำไรสูงสุด (นิวไฮ) ที่โตแบบก้าวกระโดดต่อเนื่องมา 4 ปีติด ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิ 1,507.64  ล้านบาท เติบโตถึง 85% เทียบกับกำไรสุทธิ 815.31 ล้านบาทในปี 2562 ขณะที่อัตรากำไรสุทธิก็สูงขึ้นเป็น 30.2 % เทียบกับ 16.5% ในปีก่อนหน้า แม้ว่าเศรษฐกิจจะตกต่ำอย่างรุนแรงจากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ตาม

ส่วนในปี 2564 คาดว่ารายได้จากการขายและบริการจะสูงกว่าปี 2563 ที่ 4,988 ล้านบาท เนื่องจากการรับรู้รายได้เต็มปีของ 4 โรงไฟฟ้าใหม่ กำลังการผลิตรวม 32.9 เมกะวัตต์ (MW) แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าชีวมวล จำนวน 3 โครงการ ขนาด 26.9 เมกะวัตต์ ที่ซื้อจากบริษัทเอื้อวิทยา (UWC) เมื่อปีที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าขยะชุมชน เทศบาลเมืองกระบี่ (MSW)  กำลังการผลิตติดตั้ง 6 เมกะวัตต์ ที่จ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ไปเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2563 นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีการปรับปรุงประวิทธิภาพของเครื่องจักร และการควบคุมต้นทุนอย่างต่อเนื่อง

ทำตามสัญญา เพิ่มกำลังการผลิต

บริษัทฯ ยังมีจุดเด่นที่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ตามแผนงานที่วางไว้  ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้เซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด ( SPP Hybrid ) นาบอน 1 และ 2 เพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งอีก 50 MW มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 21.50 เมกะวัตต์ต่อโครงการ อายุสัญญา 20 ปี ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีโครงการโรงไฟฟ้า SPP Hybrid ที่ลงนามใน PPA แล้วรวม 3 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 70 เมกะวัตต์ คงเหลือเพียง 1 โครงการ คือ โครงการโรงไฟฟ้า SPP Hybrid ระนอง ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 23 เมกะวัตต์ ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ

โมเดลธุรกิจ พร้อมโตก้าวกระโดด

บริษัทฯ ไม่ได้เติบโตจากการลงทุนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าเองเท่านั้น แต่ยังคงเดินหน้าตามแผนควบรวมกิจการ (M&A) และพร้อมพัฒนาเพิ่มประสิทธิของโรงไฟฟ้าให้ดียิ่งขึ้น โดยเห็นได้จากความสำเร็จในการซื้อโรงไฟฟ้าชีวมวล จำนวน 3 โครงการ  ขนาด 26.9 เมกะวัตต์ จากบริษัทเอื้อวิทยา เมื่อปีที่ผ่านมา

แรงเก็งกำไร ชนะประมูลโรงไฟฟ้าชุมชน และโรงไฟฟ้าขยะชุมชน

อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หุ้น ACE กลับมาร้อนแรง คาดเกิดจากแรงเก็งกำไรของนักลงทุนที่มองว่าบริษัทมีโอกาสจะคว้าชัยชนะในการประมูลโรงไฟฟ้าชุมชนนำร่อง กำลังการผลิต 150 เมกะวัตต์ ที่จะเปิดให้ยื่นซองประมูลในเดือนเมษายนนี้ คาดว่าจะทราบผลได้ในช่วงไตรมาส 2  และ 3 นี้  รวมถึงการเข้าประมูลโรงไฟฟ้าขยะชุมชน กำลังการผลิตติดตั้ง 400 เมกะวัตต์ด้วย เพราะความพร้อมของบริษัทฯ ทั้งฝ่ายบริหาร ทีมงาน ประสบการณ์ รวมถึงความสำเร็จในการพัฒนาโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ผ่านมา และที่สำคัญ บริษัทฯ มีเครือข่ายเกษตรกร และวัตถุดิบชีวมวล การวิจัยพัฒนา พร้อมที่จะพัฒนาโครงการได้รวดเร็วด้วยต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้

หุ้นเตะตากองทุนไทย-เทศ ตอบรับ go green เมกะเทรนด์โลก

การเติบโตของรายได้ กำไรอย่างมั่นคง และการดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด รับเมกะเทรนด์โลก ทำให้หุ้น ACE เป็นที่ต้องการของนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงนักลงทุนไทย เห็นได้จากการเข้ามาซื้อหุ้นบิ๊กล็อตหลายรายการ โดยเฉพาะในเดือนมีนาคม 2564 เกิดขึ้น 2 รายการใหญ่ มูลค่ามากกว่า 300 ล้านบาทต่อครั้ง ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา มีการซื้อขายหุ้นจำนวน  96.79 ล้านหุ้น รวมมูลค่า 381.37 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 3.94 บาทต่อหุ้น ยอมจ่ายในราคาใกล้เคียงกับในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเชื่อว่า หุ้น ACE ยังเป็นที่ต้องการของนักลงทุนระยะยาวเพิ่มขึ้น เมื่อเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้น พร้อมกับความมั่นใจว่าบริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตถึง 1,000  เมกะวัตต์ในปี 2567 ได้ไม่ยากนัก

ราคาถูกกว่า IPO

ศักยภาพและการเติบโตที่ก้าวกระโดดของ ACE หลังเข้าตลาดหุ้นได้เกือบ 2 ปี เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 แต่ราคาหุ้นกลับปรับตัวลงมาซื้อขายแถว 4 บาทเศษ ต่ำกว่าราคาที่เสนอขายประชาชนครั้งแรก (IPO) ที่ 4.40 บาท ขณะที่บริษัทฯ มีกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าที่ COD แล้ว มากกว่าตอนเข้ามาจดทะเบียน รวมถึงยังมี PPA ที่คาดว่าจะทยอยได้รับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  เมื่อพิจารณาจากผลกำไรที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ว่าราคาหุ้นตัวนี้เริ่มสะท้อนพื้นฐานและเติบโตตามเป้าหมายได้  ซึ่งนักวิเคราะห์ให้เป้าหมายว่าไปได้ถึง 5.20 บาท

นักวิเคราะห์ เชียร์

บล.ทรีนีตี้ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5.20 บาท อิงวิธี DCF จากโรงไฟฟ้าที่จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว 19 โครงการ และที่อยู่ระหว่างเจรจาอีก 13 โครงการ รวมกำลังการผลิต 450 เมกะวัตต์ ปัจจุบันราคาหุ้นคิดเป็น PER ปี 2564 ที่ 17 เท่า และ PER ปี 2565 ที่ 12 เท่า ยังนับว่าราคายังถูกเทียบกับโอกาสในการเติบโตข้างหน้า

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) แนะ ”เก็งกำไร” หุ้น ACE ยิ่งอยู่ในช่วงใกล้ยื่นซองประมูลไฟฟ้าชุมชน 150MW แม้มีแนวโน้มจะเลื่อนการยื่นซองออกไปอีก 1 เดือน จากวันที่ 22 มี.ค.- 2 เม.ย.  แต่ยังคงมีความน่าสนใจเก็งกำไรอัพไซด์ส่วนเพิ่มจากการประมูลได้

บล.กสิกรไทย คงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายที่ 4.20 บาท โดยเล็งเห็น upside ที่อาจเกิดขึ้น หากรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานยังคงแผนในการออกสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ให้กับโรงไฟฟ้าชุมชน  ซึ่ง ACE เป็นหนึ่งในผู้ดำเนินงานที่มีประสบการณ์ โดยก่อนหน้านี้เมื่อปี 2560  ชนะประมูลการจัดสรรกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) รูปแบบพลังงานร่วม (hybrid) ไป 76 เมกะวัตต์ หรือ 25% จากทั้งหมด 300 เมกะวัตต์ และ ACE ยังมีแผนเข้าประมูลการจัดสรรกำลังกำรผลิตโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ (WTE) ขนาดรวม 30-45 เมกะวัตต์ จะช่วยให้ ACE บรรลุเป้าหมายระยะยาวที่ 1,000 เมกะวัตต์ได้ จากปัจจุบันมีอยู่  448 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยกำลังการผลิตที่ดำเนินงานอยู่  246 เมกะวัตต์ ในปี 2564 และ 202 เมกะวัตต์ ภายใต้การพัฒนาและมีกำหนดการเริ่มดำเนินการในปี 2565

นอกจากนี้คาดว่าบริษัทจะมีการเซ็น PPA อีกหลายโครงการในปีนี้ ซึ่งมีทั้งประเภทโรงไฟฟ้า  SPP hybrid และกลุ่มโรงไฟฟ้า VSPP ชีวมวล ซึ่งจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตในระยะยาวเพราะมีกำหนดการเริ่มดำเนินงานในปี 2565

ทั้งนี้การประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนขนาด 150 เมกะวัตต์ ด้วยคุณสมบัติที่เพียบพร้อมของ ACE จะไม่แปลกใจเลย หากบริษัทฯ ได้แบ่งเค้กก้อนนี้ไป เพราะการตัดสินใช้เกณฑ์การแข่งขันด้านค่าไฟฟ้าและความพร้อมของผู้ประมูล โดยไม่มีเรื่องอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

ที่มา: hoonsmart