ACE ผงาดเข้า SET100 ต่อเนื่องจากที่เพิ่งเข้า FTSE SET INDEX เมื่อต้นเดือน เป้าต่อไป SET50 ด้านโบรคเชียร์ซื้อ ธุรกิจแกร่ง อัพไซด์สูง

มาแรงยิ่งกว่าพายุหน้าฝน "ACE" บมจ. แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ วิ่งฉิวเข้า SET 100 ไปอย่างรวดเร็ว หลังเข้าเทรดเพียง 6 เดือน แถมโชว์กำไรโตแรงกว่า 347%

นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า จากพลังงานหมุนเวียนรายใหญ่ของประเทศ และเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดของไทย (The Clean Energy Leader) เปิดเผยว่า " บริษัทฯ ขอขอบคุณตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ได้คัดเลือกหลักทรัพย์ ACE เข้าคำณวนดัชนี SET 100 ของสำหรับครึ่งปีหลัง 2563 (1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2563) และรู้สึกภูมิใจแทนผู้ถือหุ้นทุกท่าน ที ACE ได้รับการคัดเลือกอย่างรวดเร็ว หลังจากที่หุ้น ACE เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯได้เพียง 6 เดือน เพิ่มเติมจากเมื่อต้นเดือนนี้ที่ ACE เพิ่งได้รับคัดเลือกเข้าคำณวนดัชนีระดับสากล FTSE SET Index 2 กลุ่มรวด คือ FTSE SET Mid Cap Index และ FTSE SET Shariah Index รอบการรีวิวครึ่งปีหลัง ซึ่งคัดเลือกโดยองค์กรระดับโลกอย่าง FTSE Russell ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย"

หลังจากที่บริษัทฯ รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/ 2563 ซึ่งมีผลกำไรสุทธิเพิ่มสูงขึ้น 347% เป็นกำไรสุทธิ 593.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิ 132.62 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2562 ทำให้อัตรากำไรสุทธิของ ACE ในช่วงไตรมาส 1/2563 สูงถึง 44 % โดยในไตรมาสแรกปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,348 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับรายได้รวม 1,213 ล้านบาทในช่วงเดียวกันในงวดปี 2562 และมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (IBD/E) ที่ต่ามากเพียง 0.23 เท่า บริษัทฯจึงมีศักยภาพในการลงทุนโรงไฟฟ้าโครงการใหม่ๆเพิ่มขึ้น และมีความพร้อมในการขยายกิจการได้อย่างมาก นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ได้เพิ่มราคาเหมาะสมของ ACE เป็น 5.24 บาท มีส่วนต่างถึง 35 % จากราคาหุ้นในปัจจุบัน เนื่องจากคาดว่าบริษัทฯ จะมีการผลประกอบการที่เติบโตสูงจากการลดค่าใช้จ่ายทางการเงินและค่าดำเนินงาน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งโรงไฟฟ้าได้ตามเป้าหมาย

นายธนะชัย กล่าวเสริมว่า " บริษัทฯมีแผนงานที่จะขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเตรียมเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ตามนโยบาย สาคัญของภาครัฐ 2 โครงการใหญ่ คือ โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์โดยเฉพาะโครงการ Quick - Win ซึ่งเป็นเฟสแรกของ โครงการ ที่ล่าสุด กกพ.ประกาศว่าคาดว่าจะเปิดให้ยื่นประมูลภายในเดือนกรกฎาคมนี้ และสามารถรับรู้รายได้อย่างรวดเร็ว และโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ รวมแล้ว 1,100 เมกะวัตต์ โดยบริษัทฯ มีความพร้อมทุกด้าน ทั้งประสบการการพัฒนา และบริหารโรงไฟฟ้ากว่า 212 เมกะวัตต์ ความเชี่ยวชาญด้านการวิจัย พัฒนา (R&D) เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้า ด้วยวัสดุการเกษตร พืชพลังงานและขยะอินทรีย์ / ขยะชุมชน ความพร้อมทางการเงิน ผู้บริหาร - วิศวกรที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญจึงมั่นใจว่าบริษัทฯ มีโอกาสที่จะชนะการประมูล และสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างมั่นคง สำหรับปีนี้ บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างผลประกอบการให้เติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยการเพิ่มความสามารถในการทำกำไรโดยบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

ปัจจุบัน ACE มีโรงไฟฟ้าที่เปิด ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 212.18 เมกะวัตต์ และมีเป้าหมายระยะยาว ที่จะเพิ่มกำลังการผลิต ติดตั้งรวมมากกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2567 จากโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการที่อยู่ระหว่างรอการพัฒนาและโครงการในอนาคต ทั้งโรงไฟฟ้าชุมชนและโรงไฟฟ้าขยะ อันจะส่งผลให้ ACE เติบโตอย่างก้าวกระโดดและต่อเนื่องในช่วง 5 ปีนี้ ล่าสุด ACE มีส่วนของผู้ถือหุ้นรวมกว่า 11,387 ล้านบาท เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรายใหญ่ของประเทศไทย และเป็น 1 ในผู้นำด้านโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดของโลกที่มีความสามารถผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงหลากหลายประเภท มีความเชี่ยวชาญอย่างมืออาชีพ เป็นต้นแบบของโลกเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าขยะชุมชน ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO 14001 , ISO 9001 และ OHSAS 18001 อีกทั้งยังเป็นแบบอย่างของโลกในการดำเนินกิจการโดยยึดหลัก ESG (Environmental Social and Governance) ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม บรรษัทภิบาล และเป็นธุรกิจที่ก่อให้เกิด Positive Total Societal Impact (TSI) หรือผลลัพธ์เชิงบวกให้แก่สังคม จากการดำเนินงานของบริษัทฯ อันจะส่งผลดีต่อผลตอบแทนการลงทุนโดยรวมนอกจากนี้โรงไฟฟ้าชีวมวล และโรงไฟฟ้าขยะของ ACE ช่วยลดมลภาวะและเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และชุมชน เพื่อป้องกันการเกิด PM2.5 ลดปัญหาขยะชุมชน และช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ให้แก่คนไทยทุกคน