ACE มั่นใจปี 63 ผลงานโตต่อเนื่อง หลังต้นทุนการเงินลด เดินหน้าพัฒนาต้นทุนเชื้อเพลิง

ทันหุ้น- ACE มั่นใจปี 63 ผลงานโตต่อเนื่อง หลังต้นทุนการเงินลด เดินหน้าพัฒนาต้นทุนเชื้อเพลิง ก่อนรายได้กระฉูดปี 64-65 จากกำลังไฟที่เพิ่มขึ้นเท่าตัว เตรียมพร้อมลุยโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน และ โรงไฟฟ้าขยะ เพิ่มเติม ด้าน โบรกฯ มองกำไรโตยาวต่อเนื่อง 60% จากปี 2562-2565 เคาะเป้า 5.24 บาท ชี้ราคาปัจจุบันพีอีแค่11.9เท่าของ 421.4 เมกะวัตต์

นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูทคลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมเข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน 1,000 เมกกะวัตต์ และ โรงไฟฟ้าขยะ 400 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโครงการเร่งด่วนของกระทรวงพลังงาน จะเริ่มเปิดคัดเลือกอย่างเป็นทางการในปีหน้า

โดยปัจจุบันได้มีการเตรียความพร้อมชุมชนแล้ว ขณะโรงไฟฟ้าขยะก็เตรียมพร้อมเช่นเดียวกัน ถ้าเปิดมาบริษัทก็มีโอกาสได้รับงานสูง จากความเชี่ยวชาญด้านนี้ โดยบริษัทมีจุดแข็งทั้งในด้านการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้งการจัดหาเชื้อเพลิง, มีความสัมพันธ์ชุมชน, มีการวิจัยและปรุงสายพันธุ์พืชพลังงาน

“เรื่องโรงไฟฟ้าชุมชน เราเตรียมตัวไปตั้งนานแล้ว มีการพูดคุยกับหลายชุมชน ซึ่งจะดำเนินการทั้งเชื้อเพลิงไบโอแมสและไบโอแก๊ส รอแค่รัฐเปิด คาดว่าจะเป็นต้นปีหน้า เราก็จะเสนอ ซึ่งจะได้รับผลตอบแทนที่ดี”

ขณะเดียวกันในปีหน้าบริษัทจะเดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้า หลังจากได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) จาก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งตามแผนแล้วคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในโครงการ VSPP ราว 11 โครงการ และ SPP อีก 4 โครงการ รวมกว่า 200 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้สามารถจ่ายไฟได้ตามแผนในปี 2564-2565 ส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า สู่ 421.4 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ดีบริษัทได้ตั้งเป้าในการผลิตไฟฟ้าเป็น 1,000 เมกะวัตต์ในปี 2567

@ลดภาระดอกเบี้ยขั้นต่ำ 99 ล.

สำหรับแนวโน้มการดำเนินงานในปี 2563 นั้น ด้านกำลังการผลิตไฟฟ้ายังคงมีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 212.2 เมกกะวัตต์ ซึ่งทำให้ในเชิงรายได้ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ในส่วนของกำไรนั้น น่าจะมีการเติบโตขึ้นจากการที่บริษัทเตรียมนำเงินระดมทุนคืนหนี้หุ้นกู้จำนวน 1,450 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ย 6.8% ปลายปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทประหยัดดอกเบี้ยจ่ายได้ถึงปีละ 99 ล้านบาท

โดยการประหยัดดอกเบี้ยดังกล่าวไม่รวมกับการที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จะปรับลดดอกเบี้ยให้ตามสัญญาอีก ซึ่งจะส่งผลถึงกำไรของบริษัทที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับบริษัทยังคงเดินหน้าในการเพิ่มประสิทธิภาพของต้นทุนเชื้อเพลิง อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้บริษัมีมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้น แม้กำลังการผลิตจะเท่าเดิม ก่อนที่ในปี 2564 บริษัทจะได้รับรู้รายได้จาการขายไฟฟ้าเพิ่มเติมเข้ามาบางส่วนของ 200 เมกะวัตต์ และรับรู้เต็มในปี 2565 ซึ่งทำให้บริษัทมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 2564 รายได้จะเติบโต 100% เมื่อเทียบกับปี 2562 ทั้งนี้ในช่วง 9 เดือน/2562 ที่ผ่านมาบริษัทมีกำไร 569.98 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเมื่อเทียบกับผลประกอบการทั้งปี 2561 ที่มีกำไร 546.57 ล้านบาท

@มองกำไรโตยาวเฉลี่ย60%

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ACE อยู่ในช่วงขยายกำลังการผลิต โดยกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งจะเติบโตเฉลี่ย 26% ในปี 2562-2565 (ส่วนใหญ่เป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล) อีกทั้งยังจะมี upside เพิ่มเติมจากโรงไฟฟ้าขยะชุมชนซึ่งใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยอีกด้วย โดยคาดว่ากำไรจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่เฉลี่ย 60% ช่วงปี 2562-2565

ปัจจัยแห่งความสำเร็จที่สำคัญของธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลของ ACE คือ การวิจัยและพัฒนาภายในบริษัทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้า โดยเริ่มตั้งแต่การออกแบบโรงไฟฟ้า การคัดเลือกวัตถุดิบที่ใช้เป็นเชื้อเพลิง และสูตรการผสม

บริษัทประสบความสำเร็จในการลดต้นทุนเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้าชีวมวลลงได้อย่างต่อเนื่อง ดังเห็นได้จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้นจาก 24% ในปี 2560 สู่ 38% ใน 3Q62 นอกจากนี้ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับชุมชนโดยรอบโรงไฟฟ้ายังช่วยสนับสนุนความน่าเชื่อถือของวัตถุดิบ (เศษวัสดุทางการเกษตร) ในระยะยาวด้วย โดยอาศัยความเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้ของกลุ่มทรงเมตตา

@เป้า5.24บาท

โดยACE ตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตสู่ 1 กิ๊กกะวัตต์ ภายในปี 2567 โดยอิงกับนโยบายของรัฐบาลที่จะเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (ไม่รวมโรงไฟฟ้าพลังน้ำ) จาก 13% ในปัจจุบัน สู่ 32% ภายในปี 2580 ประเมินราคาเป้าหมายของ ACE ได้ที่ 5.24 บาท/หุ้น อ้างอิงวิธี sum-of-the-parts (SOTP) เราเริ่มต้นแนะนำ “ซื้อ” ปัจจุบัน ACE ซื้อขายที่ PE 11.9 เท่า สำหรับปี 2565 หรือเมื่อโครงการที่ยืนยันแล้วทุกโครงการเดินเครื่อง

ที่มา : thunhoon